Wednesday, July 31, 2013

Chamonix

 
 

 วันนี้เป็นวันที่  9  เราเดินทางมาถึงบทสุดท้ายของ  Sweet & Sweat in Swiss Trip  แล้วพรุ่งนี้ก็ต้องกลับบ้านแล้ว   ตอนเที่ยวนี่เวลามันไปเร็วจริงๆนะ ..... Program  สุดท้ายไม่อยู่ใน  Swiss .... จาก   Jungfrau  มา  Matterhorn  วันนี้เราจะข้ามไปฝรั่งเศสเพื่อขึ้นเขา   Mont Blanc   เก็บสามสุดยอดเขา   Top Hits  ของ   Europe ... แผนการวันนี้เราจะตื่นแต่เช้า  Check Out  แล้วเอากระเป๋าไปฝากที่สถานีรถไฟ  Lausanne  สะพายแค่เป้และกล้องนั่งรถไฟไปที่เมือง  Martigny   แล้วเปลี่ยนรถไฟข้ามไปฝรั่งเศสที่เมือง  Chamonix .... แต่โชคไม่ดีมีการปิดซ่อมทางรถไฟบางช่วงรถจะวิ่งถึงแค่ชายแดนเมือง  Le Chatelard  แล้วต้องต่อรถ  Bus  ไปที่  Chamonix  อีกที ...... เสียดายวิวช่วงรถไฟวิ่งข้ามเขาจาก   Swiss  ไปฝรั่งเศสขึ้นชื่อว่าสวยมากๆ   ตอนวางแผนก่อนมาก็ .. งง .. เป็นนานว่าทำไมมันไม่มีรถไฟเที่ยวตรงไป  Chamonix  มันยกเลิกไปได้ไง  Route  นี้มันดังไปทั่วโลก .... :( 
 
    ตอนนั่งรถไฟก็ห่วงอยู่ว่าเจ้า   Chamonix Mont Blanc Express  มันจะอยู่  Platform  ไหนนะเพราะรถไฟ  Swiss  ตรงเวลามั๊กๆ   ขบวนไหนมีเวลา 5-10 นาทีในการเปลี่ยนขบวนก็จะได้ลุ้นทุกที ... หุ.หุ ... เวลาเป็นเงินเป็นทอง... ไม่งั้นการเที่ยวมันไม่มีรสชาติ ... หุ.หุ ... ยังไม่ตกซักขบวนเลยตามแผนเป๊ะพอมาถึง  ... เจอป้ายถาวรเลย  Chamonix  ไม่ต้องเดินไปหาที่จอ   Monitor  เลยก็  Route  มันเป็นดังจิงๆ  .... :)
 
เจ้าสีแดงคันนี้  Mont-Blanc Express  จะพาเราปีนเขาข้ามไปฝรั่งเศสกัน 
  

สถานีตามข้างตู้รถไฟเลย  แทนที่จะถึง  Chamonix  ดันต้องลงตรงพรมแดนที่  Le Chatelard

เมือง Martigny  ...  วันนี้วันสุดท้ายแล้วฟ้ายังมาตามแกล้งอีก  เมฆตรึมอีกแล้วแบบนี้จะขึ้น  Mont Blanc  ได้อะเปล่า
   
ถึงแล้ว  Le Chatelard  เมืองชายแดน  Swiss - France 
   


เจ้าสีแดง   Mont-Blanc Express  ที่พึ่งพาเรามา
    
 เจ้ารถบัสคันนี้จะพาเราข้ามพรมแดนไปฝรั่งเศส 
    
เห็นด่านแล้วก็ .. งง .. ข้ามไป Belgium ,  Netherland ,  Austria  ไม่เคยเห็นมันมีด่านนี้หว่า ... ค่อยหายบื้อตอนบินออกจาก  Zurich  กลับบ้าน ... Swiss  ไม่ใช่สมาชิกของ   EU  แต่ใช้  Visa Schengen  ร่วมกับ  EU ฉลาดเนอะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้สะดวกชาวบ้านช่วย  Screen  ให้แล้ว ... มารู้ตอนมาขอ  VAT Refund  ตามกติกาของ  EU  ซื้อของที่ประเทศไหนใน  EU  ก็ได้แต่จะเอา  VAT Refund  ต้องมาทำที่สนามบินที่เราบินออก ... กะเหรี่ยงจาก  Thailand  ก็เต็มร้อยของที่ซื้อจากฝรั่งเศสจะมาเอาตังค์คืนที่สนามบิน  Zurich ...  เฮ้ยทำไมเจ้า  Custom  ดึงใบ  Claim  ของเราบางใบออกฟะเลยถามไป ... หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ ... We are not a part of EU  เสียงตอบด้วยความภูมิใจ ... :(

 
Chamonix  เป็นเมืองที่น่ารัก  Romantic  จริงๆเป็นหนึ่งเมืองของฝรั่งเศสที่ต้องมา  เมืองมีแม่น้ำผ่านกลางเป็นฐานในการขึ้น  Mont Blanc  คล้ายๆ  Zermatt  เป็นฐานการขึ้น  Matterhorn  แต่  Chamonix  ใหญ่กว่า ... ถ้ามีเวลาแนะนำได้เลยค้างสักคืนที่นี่
 
 เราไปเดินชมเมืองกันก่อน
  
 
Mc Donald  สำหรับเรามันคือ  Free Wifi  ไว้ไป  Update Mails  หรือโทรกลับบ้าน  ... :)
   
 

ใครขี้เกียจเดินก็ใช้บริการได้ 
    
เขาด้านหลังอย่างกะฉากรูปภาพ  
   
 
 
 
 
  
  
   แนวขาวๆด้านหลังคือธารน้ำแข็ง  อยู่ในเมืองก็เห็นชัดไม่ต้องปีนไปดูเลย 
 
น้ำที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งมักมีสีขาวไม่รู้ว่ามีแร่ธาตุอะไรแต่จำได้ที่   Franzjosef Gracier New Zealand  เรียกแม่น้ำที่มาจาก   Galcier  ว่า  Milky River

    
  

ล่องแก่งแบบฝรั่ง ....น้ำไหลแรงพาเจ้าแพลอยลิ่ว ...เห็นแบบนี้มันวิ่งเร็วมากเลยนะ .... อยากเล่นบ้าง ... :)  
         
   ต้องยอมเปียก ... แต่ว่าเค้าไม่รู้สึกหนาวเลยนะ 
       
Casino
 
 
Dr. Micheal Gabriel Pasccard  เป็นผู้พิชิต  Mont Blanc  คนแรก ในวันที่  8 August 1786 .... ประวัติบอกว่าพยายามอยู่หลายครั้งจนสำเร็จ 
 
ออกแบบรูปปั้นหันหน้ามองไปยัง  Mont Blanc ... เมฆมากเห็นแต่ธารน้ำแข็งมองไม่เห็น  Mont Blanc  เลยอ่ะ 
    
  เจ้าหนูสามคนนี้ถ้าอนาคตไกลฝึกปีนตั้งแต่เด็กเลยนะ 

 

 ส่วนสองคนนี้  คนชี้นิ้วไปที่  Mont Blanc  คือ  Jacques Balmat  เกิดที่   Chamonix   พา  Michel Gabriel Passcard   คนข้างบนไปพิชิต   Mont Blanc  ต่อมาก็พา  คนที่ยืนข้างๆ  Horace Bebedict de Sausure  ให้ขึ้น  Mont Blanc  อีก  Sausure  ได้รับการยกย่องว่าเป็น  The father of Alpinism  เพราะหลงไหลชมชอบเป็นหัวเรี่ยวหัวแแรงจัดตั้ง  Alpine  สมาคม
 
ได้เวลาลุย  Mont Blanc  แล้วเป็นไงเป็นกัน  เพือพ้นเมฆอาจ  Clear  เหมือน  Jungfrau .... :)
 

Mont Blanc


Jungfrau   4,158M ,   Mattherhorn   4,478M   แต่   Mont Blanc   4,809M
 
Mont Blanc  แปลว่า   White Mountain   การขึ้น  Mont  Blanc  จะขึ้นที่สถานีกระเช้า   L' Alguille du Midi ....  เดินมาถึงสถานีเมฆยังมากมองไม่เห็นยอดเขาเลย ... เข้ามาข้างในสถานนีข้างบนรายงานเมฆตรึม ... วันนี้ไม่มีโชคเหมือน  Jungfrau   เอาวะยังไงก็ขึ้นไปลุ้นอีกที่ข้างบน
 
 
 กระเช้าขึ้นแบ่งเป็น  2  ช่วง  ช่วงแรกจากสถานีข้างล่างขึ้นมาหยุดที่   Plan de L'Aiguille  แล้วต้องเปลี่ยนไปขึ้นกระเช้าอีกคันตรงไปที่ยอดเขา  Aiguille du Midi  3,842M  เลยซึ่งเราจะลงที่สถานีนี่เพื่อยลโฉม  Mont Blanc ... ถ้าเดินไปอีกด้านของสถานีจะมีกระเช้าข้ามต่อไปฝั่ง  Italy ...  Mont Blanc   จะอยู่ใกล้รอยต่อของ  3 ประเทศ  France , Italy  และ  Swiss       
 
ดูภาพรวมๆไปก่อนตอนไปด้วยกันจะได้ไม่หลง  เจ้ายอดแหลมๆ Aiguille du Midi  vs  Mont Blanc 
 
   มาดูรายละเอียดของ  Aiguille du Midi  กระเช้าจะขึ้นไปถึง Platform อยู่ทางด้านขวา  3, 777M  จากนั้นจะมีสะพานเชื่อมข้ามไปอีกด้าน แล้วจะมี  Lift  พาขึ้นไปที่ยอดของสถานี  Aiguille du Midi 3,842M     อีกทีซึ่งต้องซื้อตั๋วเพิ่ม  เราไม่ได้ขึ้นไปอากาศไม่ค่อยดี 
 
ดูกันอีกทีใครเป็นใคร ... ตอนไปขึ้นถึงเราก็ .. งง .. Mont Blanc  มันยอดไหนอ่ะ ... เฉิ่มจิงๆ ... :)
 
 พร้อมแล้วไปกันเลย อย่างกะ  Starwar  เค้าจุได้  50  กว่าคนเลยนะ 
 
 ขึ้นแล้วนะ
      
  
 

Chamonix
 
 
 
เสากระเช้าบึกบึนดี 
  
   
 ถึงสถานีแรก   Plan de Paiguille  ลงเพื่อเปลี่ยนขึ้นกระเช้าอีกคัน  ลมแรงและหนาวกว่า  Jungfrau & Matterhorn  เยอะเลย  แล้วข้างบนมันจะหนาวแค่ไหนนี้ 
 
ไปดูวิวรอบๆ  Plan de Paiguille   
  
  
 
 

เริ่มเหี่ยว เมฆมากจิงๆขึ้นไปจะเห็นอะไรอะเปล่านี่
  
หนาวอ่ะ   

 


  ธารน้ำแข็งที่เราเห็นจากในเมือง
   
 
 

 

กระเช้ากำลังเหาะลงมา ... เมฆยังเพียบ .... :(
      
  
เข้าฐานอย่างกับหนัง Scifi ...  คนอัดมาเป็นปลากระป๋องเลย
 
ขึ้นมาถึงฐาน  Aiguille du Midi  แล้ว ... ลงจากกระเช้าเราก็เดินออกมาจากทางที่มีคนยืนอยู่นั่นแหละ  ... โผล่ออกมาจ๊ากหนาวสะท้านเลย ... :) 
 
 
  เดินขึ้นบันไดไปจะเป็นร้านอาหาร และมีลานให้ชมวิว Mont Blanc 
 
ลานชมวิวอยู่ด้านซ้ายของรูป  ... หิมะจับตัวเป็นม่านน้ำแข็งเลย
 


 
 
  
 
 
สะพานเชื่อม  ถ้าข้ามไปฝั่งโน้นจะเจอ  Lift  ขึ้นไปยอดของสถานี  Aiguille du Midi
 
  
เจ้ายอดแหลมๆข้างบนนั้นนะ  เหมือนในรูปไม้
 

 เหมือนถังต้มเบียร์  ... เสียดายเราไม่ได้ขึ้นไป
 

 เดินข้ามสะพานเข้ามาด้านใน  ขณะที่ด้านขวาเป็น   Lift   ที่จะพาขึ้นยอดของ  Aiguille du Midi... แต่ที่เห็นในรูปเป็นด้านซ้ายซึ่งเป็นทางเดินลงเขา 
 
  
ด้านหลังเจ้านายผมนักเดินเขาคนหนึ่งกำลังจะเดินลงเขา  ดูมันอันตรายนะหิมะทั้งนั้น  ... หุ..หุ.. ที่เราเดินลงเขา  Matterhorn   กลายเป็นระดับอนุบาลเลยนะ  
    
สนใจรองเท้าเดินเขาแบบลุยหิมะสักคู่มั้ย  แอบถ่ายมาเขากำลัง   Brief   ให้คณะที่กำลังจะเดินลงเขา
 
เห็นคนกำลังเดินลงเขาตัวเล็กๆที่มุมล่างขวามั้ย  เมฆมากเลยเห็นแค่ยอดๆ  ไม่งั้นคงจะเห็นเทือกเขาสุดลูกหูลูกตา  แต่แค่นี้ก็สวยมากแล้วนะ 
   
 
  
กว้างสุดตา ... เวิ้งว้าง ... ท้าทาย... มุ่งมั่น ... ไม่รู้คนเดินอยู่ในอารมณ์ไหน .... ส่วนตัวตอนเดินลงเขาที่  Matterhorn   ความรู้สึกโล่งปลอดโปร่ง...อิสระ ... สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ความงามของธรรมชาติ ....  มีความรู้สึกชอบรูปนี้อ่ะ ... :)
      
ตามกันออกมาเป็นแกงค์แล้ว ... ลมก็แรงแว๊บเดียวก็พาเมฆมาเพียบมองไม่เห็นยอดภูเขาด้านหลังแล้ว 
  



 
Mont Blanc  แบบเต็มๆเจ้ายอดที่อยู่ตรงกลาง  

 

 

   นึกว่าชิวๆอย่าง  Jungfrau ,  Matterhorn  ใส่มาแค่นี้หนาวจนปวดมือเลย
 
ลมเริ่มมาแรงมาก ... ดูผมของเจ้านายผมดิ
 
Hood  ก็เอาไม่อยู่ ... เห็นเมฆวิ่งผ่านตัวเราเป็นสายๆ ขณะเดียวกันทัศนวิสัยก็แย่มากขึ้น
  
 
ไม่หวานอย่างเดียวแล้วละ ขืนยืนนานกว่านี้จะเป็นไอติมหวานเย็นแทน ... :)
 
คงแข็งเป็นหวานเย็นแบบนี้  เลยต้องเผ่นเข้ามาด้านใน 
 
เดินผ่านร้านอาหาร  มาจุดชมวิวบริเวณ  Terrasse
        
Mont Blanc   จากลานชมวิว  Terrasse
  
ลมยังแรงมาก
  
 เสียดายท้องฟ้าไม่  Clear  เหมือนที่  Matterhorn  ... :( 
  
 
 มองจากจุดชมวิว
 
 
ม่านน้ำแข็งเป็นสายเลยสวยจัง
 
มันหนาวมากเลยไม่ได้เดินไป...เสียดายจัง ... :(
 
ห่างกันไม่เกินห้านาทีมองไม่เห็นแล้ว   อากาศเปลี่ยนเร็วมาก
 
 ถ้าท้องฟ้า  Clear  เราคงเห็นทิวเขาและ  Glacier  ดังรูป  ....  (
 
     
 
 
เจ้านายผมหายตัวไปกินกาแฟร้อนๆไม่ยอมออกมาตั้งนานแล้ว  มีแต่ลูกน้องวิ่งออกมายิงหนึ่งชุดแล้วต้องวิ่งเข้าข้างในเพราะมันหนาวจนปวดมือเลย ... :(
 
กลับมานั่งกินกาแฟร้อนรอดูว่าทัศนวิสัยจะดีขึ้น  แต่เมฆมากไม่มีทีท่าว่าจะหายไปก็เลยลงมาเดินเล่นในเมือง  Chamonix  ต่อ  
 
 
 
  
 
 
Idea Paint เข้าท่า
 
 
 
   
 
 
 
  
 
 กลับมาถึงสถานีรถไฟ  Chamonix  ก็บ่ายสามกว่าตามเวลาที่นาฬิกาเลย
  
ห้าชั่วโมงกว่าที่เราชิวๆอยู่ที่นี  ก็ได้เวลา  Bye Bye  Chamonix Mont Blanc  แล้ว  เราออกจาก  Chamonix  ตอนบ่าย  3:52  นั่ง  Bus  ย้อนไปที่   Le Chatelard  แล้วนั่ง  Mont Blanc Express  กลับมาที่  Martigny  จับรถไฟย้อนไป  Lausanne  เอากระเป๋าที่ฝากไว้จาก  Locker   นั่งยาวข้าม  Swiss  จากตะวันตกไปตะวันออกกลับไปที่  Zurich  แล้วเปลี่ยนขบวนอีกทีไปแถว   Zurich Airport   กว่าจะถึงโรงแรมก็สี่ทุ่มกว่า 
 
 
 
 
เช้าวันที่  10  หลังจัดการอาหารเช้าก็นั่ง  Free Shuttle Bus  ของโรงแรมไป  Airport   และอีกไม่กี่ชั่งโมงเราก็   Bye Bye Swiss   ประเทศที่แสนจะสวยเป็น  Trip  ที่แสนจะประทับใจ  อย่างไรก็ดีตอนนี้เรากับคิดถึงอาหารไทย  เมืองไทยที่แสนอบอุ่นของเรา คงไม่มีที่ไหนจะดีเท่าบ้านเราหรอก ... ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางมากับเราสองคน และขอส่งท้าย  Sweet & Sweat in Swiss 2012 ด้วยภาพชุดนี้ 
 
 
 
Day 1
 
 Zurich
 
Day 2
 
Luzern
 
 Luzern Lake 
 
   
 Rigi Kulm 
 
 Kapellbrucke Bridge 
  
 Lowendenkmal - Lion Monument
 
 
Day 3
 
 Stein am Rhien
 
 Munot
 
   Rhein Fall
 
 
Day 4
 

 Bern
 
 Interlaken
 
 Grindelwald
 
 
Day 5 
 
Jungfrau
 
 Glacier Express 
 
 
Day 6 
    
 Zermatt 
 
 Zermatt Ancient Chalet 
 
 Matterhorn 
   
 
Day 7
  
 Montreux - Chateau de Chillon  
 
 Vevey 
 
 
Day 8
 
 Geneva  
 
 Lausanne 
 
  
Day 9
 
 Chamonix 
 
Mont Blanc